5 ผู้ประกอบการไทย คว้า Bai Po Business Awards ครั้งที่ 15
พร้อมเผยเคล็ดลับทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น
5 ผู้ประกอบการไทยคว้าสุดยอดเอสเอ็มอี Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 15 พร้อมเผย เคล็ดลับการทำธุรกิจให้อยู่รอดในยุคดิสรัปชั่นผ่านเสวนา “The Power of Never Giving Up” ด้วยพลังแห่งการ ไม่ยอมแพ้ ปั้นธุรกิจเพื่อแก้ปัญหา pain point ของลูกค้า จนนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศผลรางวัลเกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจของเอสเอ็มอีไทย “Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 15” เพื่อยกย่องผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จโดยสร้างความเข้มแข็งในมิติที่มีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และเพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ นำไปเป็นแบบอย่างในการพัฒนาธุรกิจ โดยมีผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ มี 5 บริษัท ได้แก่ กลุ่มบริษัท ดีวีเอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ให้บริการนวดสปา ผลิตภัณฑ์สปา คลินิก สกินแคร์ คาเฟ่ และ Wellness ภายใต้แบรนด์ดีวาน่า บริษัท โทฟุซัง จำกัด ผู้ผลิตน้ำเต้าหู้ออแกนิค ภายใต้ตราสินค้าโทฟุซัง บริษัท บรันช์ไทม์ จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ กราโนล่า ภายใต้ตราสินค้า “บริษัท พลังผัก จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สลัดผัก ผลไม้พร้อมทาน ภายใต้ตราสินค้า Oh! Veggies และ Oh! Fruity และบริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ผู้ผลิตยาอมสมุนไพรภายใต้ตราสินค้า “ตะขาบ 5 ตัว” โดย ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย นายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ผู้บริหารทั้ง 5 บริษัท พร้อมกันนี้ผู้บริหารทั้ง 5 บริษัท ได้ร่วมถ่ายทอดมุมมองในการทำธุรกิจผ่านเสวนาหัวข้อ “The Power of Never Giving Up พลังแห่งการไม่ยอมแพ้” เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลังเผชิญความท้าทายในการทำธุรกิจในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
นายพัฒนพงศ์ รานุรักษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีวีเอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล ให้มุมมองว่า “แก่นสำคัญที่จะทำให้เจ้าของธุรกิจรับมือกับปัญหาดิสรัปชั่นได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากวิธีคิด หรือ Mindset ซึ่งสำหรับดีวานา เรามองทุกปัญหาเป็นโอกาส ความผิดพลาดคือประสบการณ์ที่ทำให้เราแข็งแกร่งในวันนี้ เมื่อเกิดปัญหาเราจะกลับมาโฟกัสที่เป้าหมายเพื่อเดินหน้าต่อ โดยคำนึงถึงความพอใจของลูกค้ามากกว่าผลกำไร และไม่ลืมที่จะคืนกลับสิ่งดี ๆ สู่สังคม นี่คือพลังที่จะทำให้ธุรกิจเราอยู่ได้อย่างยั่งยืน”
นายสุรนาม พานิชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทฟุซัง จำกัด กล่าวว่า “อุปสรรคคือสิ่งที่ต้องเจอทุกวัน แต่สิ่งเดียวที่จะทำให้ผ่านไปได้คือสติ เราย้อนเวลาไม่ได้ แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เมื่อเรามีสติก็จะสามารถหาทางออกที่ดีที่สุดได้ การทำธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องคิดว่าจะต้องเป็นที่หนึ่ง ซึ่งโทฟุซังมีจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจนว่าเราเป็นน้ำเต้าหู้ออแกนิคแท้ 100% และมั่นใจว่าลูกค้าสัมผัสได้ถึงความแตกต่างทั้งรสชาติและสุขภาพที่ได้รับ”
นางสาวชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรันช์ไทม์ จำกัด มองว่า “อุปสรรคและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอด แต่ที่เราผ่านมาได้เพราะไม่เคยให้ความกลัวมาหยุดความมุ่งมั่นหรือศักยภาพของเรา กว่าจะมาเป็น Diamond Grains ในวันนี้ เราเคยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่แรงบันดาลใจไม่เคยหมดไป เราพลิกแนวคิดใหม่จากที่เคยคิดว่าอยากทำอะไร เป็นลูกค้าอยากได้อะไร พลังที่ทำให้เราไม่เคยยอมแพ้คือสิ่งที่ลูกค้าให้เรามา ทั้งคำติชม ทั้งโอกาส เงินทุกบาทของลูกค้าที่ให้เรามาเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากจะพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อตอบแทนลูกค้า”
นายวุฒิชัย เจริญศุภกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลังผัก จำกัด กล่าวว่า “สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในช่วงตั้งต้นธุรกิจย่อมต้องเจออุปสรรคมากมายยิ่งในยุคดิสรัปชั่น แต่มีไม่กี่รายที่จะอดทนฝ่าฟันไปได้ นี่จึงเรียกว่าพลังของผู้ประกอบการ พลังผักเราเจออุปสรรคเยอะมากในช่วงแรก แต่สิ่งที่เราทำมาตลอดคือวางแผนรองรับกับทุกสถานการณ์อยู่เสมอ ท้อได้แต่อย่าถอย”
นายสุเทพ สิมะวรา ประธานกรรมการ บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ให้มุมมองในด้านของธุรกิจครอบครัวว่า “หัวใจหลักที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตอย่างมั่นคง คือการที่ทุกคนรู้คุณค่าในสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้ และนำนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอดสินค้ารองรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ทันท่วงที แนวคิดที่จะทำให้ธุรกิจยั่งยืนคือการซื่อตรงต่อลูกค้าและความสามัคคีในครอบครัวและในองค์กร ไม่ว่าจะเจอปัญหาใดก็จะสามารถผ่านพ้นไปได้หมด”
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม คือ ฟันเฟืองสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งโจทย์ที่ท้าทายของการทำธุรกิจในยุคนี้ คือ ทำอย่างไรที่จะปรับตัวให้ทันกับบริบทของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ซึ่งทั้ง 5 บริษัทมีความโดดเด่นในทุกมิติทั้งการบริหารจัดการธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง การให้ความสำคัญต่อนวัตกรรมผ่านการคิดค้นพัฒนา (Research and Development) และแนวทางการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจในยุคดิสรัปชั่น รางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 15 นี้ มีวัตถุประสงค์หลัก คือ การเชิดชูและยกย่องผู้ประกอบการที่สามารถสร้างความโดดเด่น และประสบความสำเร็จให้เป็นที่ประจักษ์ในวงการธุรกิจ เพื่อเป็นแบบอย่างในการสร้างมาตรฐานที่ดีของผู้ประกอบการ SME ต่อไป ขณะที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โลกดิจิทัลเองก็ได้พลิกโฉมการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ SME ไปอีกระดับ ดังนั้นบทบาทของธนาคารไทยพาณิชย์จึงต้องทรานสฟอร์มจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME เป็นหลักสู่การเป็นที่ปรึกษาที่คอยเดินเคียงข้างกับลูกค้า SME ไทยไปด้วยกัน เพราะธนาคารมุ่งหวังว่าจากบทบาทดังกล่าวจะทำให้ธนาคารจะสามารถเติบโตไปกับผู้ประกอบการ SME ได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน”
อนึ่ง การพิจารณาตัดสินรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin จะเป็นไปตามดุลพินิจและอำนาจของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิโดยตรง และผู้ประกอบการที่สมัครเข้ารับการพิจารณารางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์หรือศศินทร์ฯ ผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปีจะได้รับใบประกาศพร้อมโล่เกียรติคุณเป็นเครื่องหมายรับรองความโดดเด่นของการดำเนินธุรกิจ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "ใบโพธิ์" ของธนาคารไทยพาณิชย์
ผู้ได้รับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 15 |