ไทยพาณิชย์ ผนึก ศศินทร์
มอบรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 2
ชูศักยภาพผู้ประกอบการไทย
5 ธุรกิจไทย คว้ารางวัลเกียรติยศ Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 2 ได้แก่ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) บริษัท บอทานิค จำกัด และ บริษัท เบอร์แทรม เคมิคอล(1982) จำกัด สะท้อนศักยภาพของผู้ประกอบการและมาตรฐานที่ดีแก่วงการ SME ไทย โดย นายอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นประธานมอบรางวัล ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย
ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงโครงการ Bai Po Business Awards by Sasin ว่า เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจได้อย่างโดดเด่น โดยธนาคารมุ่งให้รางวัลนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการไทยรุกพัฒนาศักยภาพธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นแบบอย่างให้กับธุรกิจ SME รายอื่น มุ่งสร้างความโดดเด่นทางธุรกิจ ซึ่งจะก่อให้เกิดมาตรฐานที่ดี และส่งผลให้เกิดการผลักดันระบบเศรษฐกิจให้เติบโตได้ในระยะยาว สำหรับการมอบรางวัลในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกได้มอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการ SME ไปแล้ว 5 ราย ซึ่งได้รับการ ยอมรับถึงความโดดเด่น และสร้างความภาคภูมิใจให้กับธุรกิจ SME ได้เป็นอย่างดี
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ ฯ กล่าวถึง
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินว่า ธุรกิจต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเบื้องต้นของโครงการ และมีความโดดเด่นในมิติที่สำคัญต่อศักยภาพในการแข่งขัน ได้แก่ การให้ความสำคัญต่อลูกค้า (Customer Focus) ความริเริ่มที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรม (Innovation) การมีคุณภาพสูง (Quality) การตอบสนองและปรับตัวต่อโอกาสและปัญหา (Adaptability to Changes) การสร้างมูลค่า (Value Creation) การสร้างตราสินค้า (Branding) การมีระบบงานที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency) ความเป็นผู้นำของผู้บริหารกิจการและการสร้างทีม (Leadership & Team Building) การปฏิบัติดีต่อสังคม (Social Responsibility) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship)
สำหรับกระบวนการตัดสินรางวัล คณะกรรมการตัดสินจะพิจารณามอบรางวัลแก่ผู้ที่มีคุณสมบัติที่ เหมาะสม โดยไม่มีการจัดอันดับ และไม่จำกัดจำนวนผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปี โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ ทั้งนี้ ผู้ได้รับคัดเลือกจะได้รับใบประกาศพร้อมโล่เกียรติคุณเป็นเครื่องหมายรับรองความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจ และได้รับการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจมากยิ่งขึ้น
ดร.อาชว์ เตาลานนท์ ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าไทย ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาคัดเลือก กล่าวว่า ในรอบที่ 2 นี้คณะกรรมการได้คัดเลือกผู้สมัครและผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าร่วมโครงการทั้งหมดกว่า 120 บริษัท และมีมติให้ธุรกิจได้รับรางวัลในครั้งนี้ ได้แก่
- บริษัทเถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้นำธุรกิจสาหร่ายทอด ที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% เป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย ได้รับรางวัลโดยมีความโดดเด่นในมิติการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ และการสร้างตราสินค้า
- บริษัท บอทานิค จำกัด ผู้ผลิตสินค้าประเภทเครื่องหอม ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นในมิติการสร้างมูลค่าเพิ่ม และความริเริ่มที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรม
- บริษัท เบอร์แทรม เคมิคอล(1982) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทยาหม่อง ภายใต้ตราสินค้า เซียงเพียว ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นในมิติการสร้างตราสินค้า และการริเริ่มที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรม
- บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางยาแนวฝากระป๋องและแลคเกอร์เคลือบกระป๋องในอุตสาหกรรมกระป๋องบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นในมิติ การมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และการริเริ่มที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรม
- บริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้บุกเบิกธุรกิจสายสัญญาณสื่อสารคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม (Cabling) และนำเทคโนโลยีสาย LAN มาใช้ในประเทศไทยเป็นรายแรก และปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดธุรกิจ Cabling มากที่สุดในไทย ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นในมิติ ความริเริ่มที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรม การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการให้ความสำคัญต่อลูกค้า
ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตภายใต้ความสามารถในการบริหารจัดการทีมงาน การริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรม การเพิ่มมูลค่าให้สินค้า การเข้าถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจไทยต่อไป
|