4 ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย
คว้ารางวัล "Bai Po Business Awards by Sasin" ครั้งที่ 11
ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มอบรางวัลเกียรติยศ Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 11 ให้กับ 4 ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย ได้แก่ บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด, บริษัท เหรียญทอง ลามิทิวบ์ จำกัด, บริษัท อาฟเตอร์ยู จำกัด และ บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด สะท้อนศักยภาพและมาตรฐานที่โดดเด่นของผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีไทย โดยมี นายอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นประธานมอบรางวัล ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย
นายวิพล วรเสาหฤท รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการ Bai Po Business Awards by Sasin ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2550 จนถึงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ และและสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ฯ เพื่อยกย่องผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจได้อย่างโดดเด่น ธนาคารมุ่งหวังให้รางวัลนี้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการไทยรายอื่นๆ ในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะก่อให้เกิดมาตรฐานที่ดีต่อภาคอุสาห กรรมเอสเอ็มอีโดยรวมของประเทศไทย ทั้งนี้ธนาคารเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั่วประเทศที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น
นายคงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา Director, Sasin Entrepreneurship Center สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ฯ กล่าวถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินว่า ธุรกิจต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเบื้องต้นของโครงการ และมีความโดดเด่นในมิติที่สำคัญต่อศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจขนาดกลางและย่อม มิติใดมิติหนึ่งหรือหลายมิติ ประกอบด้วย 1.องค์กรที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable Business Practice) 2.องค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Enterprise) 3.การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) 4.การบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด (Branding and Marketing) 5.การบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operational Best Practice) 6.การบริหารจัดการด้านการเงิน (Financial Strength) 7.การบริหารจัดการด้านบุคลากร (People Excellence) และ8.การสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ซึ่งเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตก้าวหน้าและแข็งแกร่ง ทั้งนี้คณะกรรมการตัดสินจะพิจารณามอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยไม่มีการจัดอันดับ และไม่จำกัดจำนวนผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปี
ดร.อาชว์ เตาลานนท์ ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือก กล่าวว่า คณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกบริษัทผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจให้มีความโดดเด่น ซึ่งสมควรได้รับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ในครั้งที่ 11 รวม 4 บริษัท ได้แก่
|
บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด บริษัทดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเสต๊กเฮาส์ในห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ ซานตาเฟ่ (Santafe') เน้นจุดเด่นที่การเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพดี และตั้งราคาไม่สูงมาก เพื่อให้คุ้มค่าต่อเงินของลูกค้า จากความตั้งใจที่จะเป็นร้านอาหารแบบ Casual Dining ที่ราคาไม่สูง ทำให้มีจำนวนลูกค้าใช้บริการซ้ำสูงถึง 80-90% ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ในร้านอาหารประเภทเสต๊กในประเทศไทย ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นในมิติการบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operational Best Practice) การบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด (Branding and Marketing) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) |
|
|
|
บริษัท เหรียญทอง ลามิทิวบ์ จำกัด หนึ่งในเครือ กิมไป๊ (Kim Pai)
ผู้ผลิตหลอดยาสีฟันและเพอร์ชันนอลแคร์ในกลุ่มหลอดลามิเนต(Laminate)ให้กับแบรนด์ดังอย่าง ยูนิลีเวอร์ พีแอนด์จี คอลเกต โดยเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศที่ผลิตหลอดลามิเนตได้ มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรม ริเริ่มแพคเกจหลอดแบบ Metallic look และพัฒนาเทคโนโลยี Invisible side seam ที่ช่วยให้การเชื่อมรอยต่อของหลอดทนทาน เรียบสวย และเพิ่มลูกเล่นได้ตามความต้องการของลูกค้าภายใต้ต้นทุนที่ประหยัด ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นใน มิติองค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Enterprise) และการบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) |
|
|
|
บริษัท อาฟเตอร์ยู จำกัด ธุรกิจร้านขนมภายใต้ชื่อ ร้านอาฟเตอร์ยู (After You) ที่เกิดจากความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจของ 2 ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เคยทำธุรกิจร้านอาหารทะเลด้วยกันมาก่อน ทั้งคู่จึงได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ครั้งนั้น และใช้ความถนัดในด้านที่ตนเองมี มาเริ่มต้นเปิดธุรกิจคาเฟ่ขนมหวาน (Dessert Café) เจ้าแรกในตลาด เน้นเจาะกลุ่มตลาด Premium Mass ด้วยกลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้งที่เข้าถึงลูกค้า พัฒนาบุคคลาการ ด้วยระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ จนขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นในมิติ การบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operational Best Practice) การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) |
|
|
|
บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด บริษัทบริหารด้าน HR Solution รายใหญ่ที่สุดในไทย ที่ให้บริการครอบคลุมด้าน Business Process Outsourcing เน้นระบบงานบริการด้านทรัพยากรบุคคล Payroll บริการจัดทำระบบบัญชีเงินเดือน เพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานขององค์กรต่างๆ ให้ลดระยะเวลางานที่มีรายละเอียดซับซ้อนยุ่งยากและเกิดความผิดพลาดได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทแห่งแรกที่พัฒนาระบบ Mobile Solution สำหรับแอปพลิเคชั่นในมือถือ เพื่อให้สะดวกแก่ลูกค้า ได้รับรางวัลจากความโดดเด่นใน มิติองค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Enterprise) การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) และการบริหารจัดการด้านการเงิน (Financial Strength) |
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ การบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด การสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ องค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม และการบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการบริหารจัดการด้านการเงิน
ผู้ได้รับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 11
|